เกร็ดความรู้! เกี่ยวกับการตรวจเช็คสภาพรถยนต์

 การตรวจสภาพรถ หรือ การตรวจเช็ครถตามระยะ  

เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องได้รับการดูแลและบำรุงรักษาอยู่เสมอ เพราะรถยนต์ ยิ่งใช้งานนานยิ่งเสื่อมสภาพได้ง่าย เพื่อช่วยชะลอความเสื่อมของรถ หลังจากมีการใช้งานแล้วหากเราไม่ใส่ใจ  รถยนต์ย่อมมีการเสื่อมสภาพ อาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้

การเช็คสภาพรถยนต์ คือ การบำรุงรักษารถยนต์ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้

  1. การเช็คสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ 
  2. เปลี่ยนตามระยะทางหรือระยะไมล์

เช็คสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ จำเป็นต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่จำกัดระยะเวลาหรือระยะทาง เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่มักจะเกิดขึ้นตอนที่เราประมาท

  1. ตรวจเช็ครถยนต์ เครื่องยนต์ เช็คสภาพ ก่อนออกเดินทาง เพื่อให้พร้อมใช้งานทุกครั้ง
  2. การล้างทำความสะอาดตัวรถ กระจก และล้อหรือยางรถยนต์ ตามความจำเป็น เพื่อป้องกันคราบเศษหินดินทรายติดแน่นจนกินสีรถจนเกิดสนิม หรือเป็นอุปสรรคต่อการใช้งาน
  3. หมั่นเช็ครายการต่อไปนี้ สัปดาห์ละครั้ง
  • ระดับน้ำมันหล่อลื่น
  • เช็ควันหมดแบตเตอรี่
  • เช็คระดับน้ำหล่อเย็น
  • เช็คเครื่องปรับอากาศให้ทำงาน 3 – 4 นาที
  • ภายใน 2 สัปดาห์ ควรมีการเช็คความดันลมยาง

การเช็คสภาพรถโดยใช้ระยะทาง คือการใช้งานเป็นตัวกำหนดว่า ถึงเวลาตรวจเช็คสภาพแล้ว เลขไมล์ตั้งแต่ 1,500 กิโลเมตร หรือ ประมาณ 1 เดือนหลังจากออกรถใหม่ เป็นต้น

  • เลขไมล์ที่ 1,500 กิโลเมตร หรืออายุรถ 1 เดือน ควรเช็ครถตามรายการต่อไปนี้
  • ความสะอาดของขั้วแบตเตอรี่
  • สภาพท่อน้ำหล่อเย็น
  • การสึกของยาง
  • ระดับน้ำมันเบรก
  • ฝาหม้อน้ำ
  • สายพานขับปั๊ม
  • สายพานแอร์
  • เลขไมล์ที่ 5,000 กิโลเมตร หรืออายุรถ 3 เดือน มีอุปกรณ์รถยนต์หลายอย่างที่ควรเช็ค ดังนี้
  • สายพานและระดับความตึง
  • ความสะอาดกรองอากาศ
  • น้ำมันคลัตช์
  • ระดับน้ำมันในปั๊ม
  • ใบปัดน้ำฝน
  • การทำงานของหัวฉีด
  • ความสะอาดของคอยล์ร้อน
  • รอยรั่วที่ข้อต่อ
  • ปริมาณน้ำยาทำความเย็น
  • เลขไมล์ที่ 5,000 – 10,000 กิโลเมตร หรือในระยะเวลา 6 เดือน ควรมีการเช็คของเหลว เช่น
  • น้ำมันหล่อลื่น เพื่อทำการเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่น ทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นต้องมีการเปลี่ยนกรองน้ำมันหล่อลื่นด้วย
  •  เลขไมล์ที่ 10,000 กิโลเมตร หรืออายุรถครบ 6 เดือน ต้องระมัดระวังในเรื่องของความเสื่อม โดยเฉพาะของยางรถยนต์ จึงควรเช็คสภาพรถในเรื่องต่อไปนี้
  • ระยะหน้าทองขาวและเขี้ยวหัวเทียน
  • พื้นยางล้อหน้ากับล้อหลัง อาจสับเปลี่ยนตำแหน่งของยาง เพื่อทำให้ยางแต่ละเส้นสึกเสมอกัน
  • ความลึกของดอกยาง
  • ระยะฟรีของแป้นคลัตช์
  • ระดับน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ
  • สภาพเบรก
  • การหล่อลื่นข้อต่อต่าง ๆ
  • เลขไมล์ที่ 20,000 กิโลเมตร เริ่มมีอุปกรณ์บางอย่างที่ต้องถึงเวลาเปลี่ยนใหม่แล้ว จึงมีรายการเช็คสภาพดังนี้
  • ระยะช่องว่างของวาล์ว
  • สายหัวเทียน
  • ฝาครอบจานจ่ายและหัวโรเตอร์
  • วาล์ว พีซีวี
  • ล้างหม้อน้ำ
  • ชุดทองขาวและคอนเดนเซอร์
  • น้ำหล่อเย็น
  • หัวเทียน
  • ตัวกรองอากาศ
  • เลขไมล์ที่ 40,000 กิโลเมตร หรืออายุรถประมาณ 2 ปี ยังคงมีมีอุปกรณ์สำคัญๆ ที่ต้องปรับเปลี่ยนดังนี้
  • สายพาน
  • น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ
  • สายพานขับปั๊ม
  • สายพานแอร์
  • ใบปัดน้ำฝน
  • เลขไมล์ที่ 60,000 กิโลเมตร หรืออายุรถประมาณ 3 ปี มีสิ่งที่ควรเปลี่ยนและทำความสะอาดดังนี้
  • เปลี่ยนสายหัวเทียน
  • เปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิง
  • ทำความสะอาดคาร์บูเรเตอร์
  • เลขไมล์ที่ 100,000 กิโลเมตร สำหรับเครื่องเบนซิน จำเป็นต้องเช็คสายพานไทม์มิ่ง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ  ไม่ว่าจะเป็นนิสัยการขับขี่ ควรเช็คสภาพความแข็ง มีรอยแตกหรือฉีกขาดชำรุดหรือไม่ หากพบให้รีบเปลี่ยนทันที