เลือกซื้อกล้องติดรถยนต์อย่างไรถึงจะคุ้มค่า

           กล้องติดรถยนต์ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งที่ผู้ใช้รถไม่ควรมองข้าม เพราะอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นเกิดขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเพราะความประมาทของผู้ขับขี่ หรือบางครั้งจอดอยู่ดี ๆ ก็มีคนมาเฉี่ยวมาชน ไหนจะเหล่ามิจฉาชีพที่สร้างสถานการณ์เพื่อหวังจะได้เงินจากเราอีก แต่ถ้าเรามี กล้องติดรถยนต์ ก็จะใช้เป็นหลักฐานมัดตัวคนผิดได้ ซึ่งในปัจจุบัน มีกล้องติดรถยนต์หลากหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อมากมาย ทั้งราคาแพง ๆ ไปจนถึงกล้องจีนที่ราคาถูกลงมา แล้วจะมีวิธีการเลือกซื้ออย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด มาดูเทคนิคการเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์กันครับ

1.ตั้งงบประมาณในการซื้อกล้องติดรถยนต์

         สิ่งแรกที่จะเป็นตัวกำหนดคุณภาพและฟังก์ชันการใช้งานของกล้องติดรถยนต์ก็คืองบประมาณที่ตั้งเอาไว้นั่นเอง เพราะราคาของกล้องติดรถยนต์ก็มีให้เราเลือกกันตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว ยิ่งถ้าต้องการกล้องติดรถยนต์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันและมีภาพที่คมชัด ก็ต้องแลกมากับราคาที่ค่อนข้างสูงมากกว่ากล้องติดรถยนต์แบบทั่วไป ดังนั้น จึงควรตั้งงบประมาณที่สามารถจ่ายได้แล้วพิจารณากล้องติดรถยนต์ในราคาที่อยู่ในงบว่าคุ้มค่า และเหมาะสมกับราคาหรือไม่

2.วัตถุประสงค์ในการใช้งาน

         กล้องติดรถยนต์ตัวหนึ่งอาจทำให้ได้หลายอย่าง เช่น บันทึกวิดีโอ ภาพถ่าย หรือบางรุ่นอาจมี GPS ในตัวด้วย ผู้ซื้อควรศึกษาข้อมูลของกล้องเบื้องต้น และพิจารณาความต้องการของตัวเองว่าต้องการซื้อกล้องไปเพื่อใช้งานอะไร เพื่อให้ได้เครื่องมือที่ตอบโจทย์และเกิดประโยชน์สูงสุด

3.ความคมชัดของกล้อง

        สิ่งที่ควรคำนึงถึงมากที่สุดสำหรับกล้องติดรถยนต์ คือ ไฟล์ที่อัดมามีคุณภาพระดับไหน ที่เราขอแนะนำเลยคืออัดได้ Full HD 1080p ก็เพียงพอแล้ว แต่อีกสิ่งที่อยากแนะนำให้ดูคือค่า FPS (Frame Per Second) ที่ตัวกล้องอัดได้ ปรกติแล้วจะอยู่ที่ 20-30 FPS ครับ แต่ถ้าสูงกว่า 30 FPS นี้ถือว่าระดับภาพจะเนียนตามาก ซึ่งปัจจุบันกล้องติดรถยนต์ที่ให้ภาพคมชัดระดับ Full HD ส่วนมากก็จะอยู่ในราคาหลักพันบาทขึ้นไป แต่หากจะเน้นราคาถูกไว้ก่อน ก็มีกล้องติดรถแบบธรรมดาที่ราคา 600-900 บาท ซึ่งก็หมายถึงคุณภาพที่ต่ำลงมาด้วย

4.การใช้งานเมื่ออัดในที่แสงน้อยและตอนกลางคืน

          กล้องบางรุ่นอาจให้ภาพที่คมชัดในตอนกลางวัน แต่เมื่อใช้งานตอนกลางคืนแล้วคุณภาพไฟล์เข้าขั้นแย่ คุณควรศึกษาให้ดีก่อนซื้อว่าหลัก ๆ แล้วคุณใช้งานในเวลาไหน ถ้าต้องการกล้องที่ใช้งานในที่มืดหรือตอนกลางคืนได้ ควรหาซื้อกล้องที่มีคุณสมบัติบันทึกภาพในสภาพแสงมืดได้ เช่น กล้องที่มีอินฟาเรด (IR) มองเห็นแม้ในที่มืดมาก ทั้งนี้ขอแนะนำให้ลองดูวิดีโอเทสต์กล้องในเวลากลางคืนก่อน เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อด้ว

5.ความจุของเมมโมรี่

         กล้องส่วนใหญ่สามารถเลือกอัดได้ว่าอยากได้ความคมชัดระดับไหน ชัดมากก็ได้ไฟล์ใหญ่ ซึ่งกล้องแต่ละตัวก็รองรับชนิดเมมโมรี่และขนาดความจุได้ไม่เท่ากัน ซึ่งควรเช็กดี ๆ อย่าพลาดไปซื้อกล้องที่รับเมมโมรี่ได้แค่ 32GB ล่ะ ไม่เช่นนั้นอาจบันทึกวิดีโอได้ไม่ครบวันเลยด้วยซ้ำ

6.ฟังก์ชันของกล้อง

         แต่ละรุ่นมักจะชูจุดขายแตกต่างกันไป แต่ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่ขอแนะนำให้เช็กคือ ต้องบันทึกเสียงได้ชัด, มีจอเล่นไฟล์บันทึกได้ทันที, มีระบบป้องกันการสั่น, มีระบบตัดรอบระยะการบันทึกได้ (ไม่ทำให้ไฟล์วิดีโอใหญ่เกินไป), ไฟล์ที่บันทึกเป็นสกุลที่เราต้องการ, แสดงวันที่ และเวลาในไฟล์บันทึก, บันทึกทับไฟล์เก่าอัตโนมัติ, มีระบบอินฟาเรดที่ช่วยบันทึกยามแสงน้อยมาก ๆ เป็นต้น

7.รับประกันหลังการขาย

       หากซื้อกล้องราคาถูก หรือซื้อตามร้านค้าในอินเทอร์เน็ต มักจะไม่มีประกัน ถ้าจะเลือกของดีมีคุณภาพและรับประกันดี ๆ ควรเลือกซื้อกับร้านหรือบริษัทที่เชื่อถือได้ มีตัวแทนจำหน่ายหรือหน้าร้านตั้งอยู่ในประเทศไทยที่แน่นอน ยอมจ่ายราคาแพงกว่าหน่อย ก็น่าจะดีกว่าซื้อของถูกนะครับ