การตรวจสภาพรถ หรือ การตรวจเช็ครถตามระยะ
เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องได้รับการดูแลและบำรุงรักษาอยู่เสมอ เพราะรถยนต์ ยิ่งใช้งานนานยิ่งเสื่อมสภาพได้ง่าย เพื่อช่วยชะลอความเสื่อมของรถ หลังจากมีการใช้งานแล้วหากเราไม่ใส่ใจ รถยนต์ย่อมมีการเสื่อมสภาพ อาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้


การเช็คสภาพรถยนต์ คือ การบำรุงรักษารถยนต์ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้
- การเช็คสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ
- เปลี่ยนตามระยะทางหรือระยะไมล์
เช็คสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ จำเป็นต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่จำกัดระยะเวลาหรือระยะทาง เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่มักจะเกิดขึ้นตอนที่เราประมาท
- ตรวจเช็ครถยนต์ เครื่องยนต์ เช็คสภาพ ก่อนออกเดินทาง เพื่อให้พร้อมใช้งานทุกครั้ง
- การล้างทำความสะอาดตัวรถ กระจก และล้อหรือยางรถยนต์ ตามความจำเป็น เพื่อป้องกันคราบเศษหินดินทรายติดแน่นจนกินสีรถจนเกิดสนิม หรือเป็นอุปสรรคต่อการใช้งาน
- หมั่นเช็ครายการต่อไปนี้ สัปดาห์ละครั้ง
- ระดับน้ำมันหล่อลื่น
- เช็ควันหมดแบตเตอรี่
- เช็คระดับน้ำหล่อเย็น
- เช็คเครื่องปรับอากาศให้ทำงาน 3 – 4 นาที
- ภายใน 2 สัปดาห์ ควรมีการเช็คความดันลมยาง


การเช็คสภาพรถโดยใช้ระยะทาง คือการใช้งานเป็นตัวกำหนดว่า ถึงเวลาตรวจเช็คสภาพแล้ว เลขไมล์ตั้งแต่ 1,500 กิโลเมตร หรือ ประมาณ 1 เดือนหลังจากออกรถใหม่ เป็นต้น
- เลขไมล์ที่ 1,500 กิโลเมตร หรืออายุรถ 1 เดือน ควรเช็ครถตามรายการต่อไปนี้
- ความสะอาดของขั้วแบตเตอรี่
- สภาพท่อน้ำหล่อเย็น
- การสึกของยาง
- ระดับน้ำมันเบรก
- ฝาหม้อน้ำ
- สายพานขับปั๊ม
- สายพานแอร์
- เลขไมล์ที่ 5,000 กิโลเมตร หรืออายุรถ 3 เดือน มีอุปกรณ์รถยนต์หลายอย่างที่ควรเช็ค ดังนี้
- สายพานและระดับความตึง
- ความสะอาดกรองอากาศ
- น้ำมันคลัตช์
- ระดับน้ำมันในปั๊ม
- ใบปัดน้ำฝน
- การทำงานของหัวฉีด
- ความสะอาดของคอยล์ร้อน
- รอยรั่วที่ข้อต่อ
- ปริมาณน้ำยาทำความเย็น
- เลขไมล์ที่ 5,000 – 10,000 กิโลเมตร หรือในระยะเวลา 6 เดือน ควรมีการเช็คของเหลว เช่น
- น้ำมันหล่อลื่น เพื่อทำการเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่น ทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นต้องมีการเปลี่ยนกรองน้ำมันหล่อลื่นด้วย
- เลขไมล์ที่ 10,000 กิโลเมตร หรืออายุรถครบ 6 เดือน ต้องระมัดระวังในเรื่องของความเสื่อม โดยเฉพาะของยางรถยนต์ จึงควรเช็คสภาพรถในเรื่องต่อไปนี้
- ระยะหน้าทองขาวและเขี้ยวหัวเทียน
- พื้นยางล้อหน้ากับล้อหลัง อาจสับเปลี่ยนตำแหน่งของยาง เพื่อทำให้ยางแต่ละเส้นสึกเสมอกัน
- ความลึกของดอกยาง
- ระยะฟรีของแป้นคลัตช์
- ระดับน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ
- สภาพเบรก
- การหล่อลื่นข้อต่อต่าง ๆ
- เลขไมล์ที่ 20,000 กิโลเมตร เริ่มมีอุปกรณ์บางอย่างที่ต้องถึงเวลาเปลี่ยนใหม่แล้ว จึงมีรายการเช็คสภาพดังนี้
- ระยะช่องว่างของวาล์ว
- สายหัวเทียน
- ฝาครอบจานจ่ายและหัวโรเตอร์
- วาล์ว พีซีวี
- ล้างหม้อน้ำ
- ชุดทองขาวและคอนเดนเซอร์
- น้ำหล่อเย็น
- หัวเทียน
- ตัวกรองอากาศ
- เลขไมล์ที่ 40,000 กิโลเมตร หรืออายุรถประมาณ 2 ปี ยังคงมีมีอุปกรณ์สำคัญๆ ที่ต้องปรับเปลี่ยนดังนี้
- สายพาน
- น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ
- สายพานขับปั๊ม
- สายพานแอร์
- ใบปัดน้ำฝน
- เลขไมล์ที่ 60,000 กิโลเมตร หรืออายุรถประมาณ 3 ปี มีสิ่งที่ควรเปลี่ยนและทำความสะอาดดังนี้
- เปลี่ยนสายหัวเทียน
- เปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิง
- ทำความสะอาดคาร์บูเรเตอร์
- เลขไมล์ที่ 100,000 กิโลเมตร สำหรับเครื่องเบนซิน จำเป็นต้องเช็คสายพานไทม์มิ่ง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นนิสัยการขับขี่ ควรเช็คสภาพความแข็ง มีรอยแตกหรือฉีกขาดชำรุดหรือไม่ หากพบให้รีบเปลี่ยนทันที

